เมื่อพูดถึง LTF, RMF ประกันชีวิต หรือประกันแบบบำนาญ คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องการลดภาษีมากกว่าที่จะซื้อเพื่อให้ได้ประโยชน์จากวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของตัวลดหย่อนนั้นๆ
ถ้าคิดจะซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีอย่างเดียว ไม่ว่าจะซื้ออะไร ถ้าจ่ายเงินเท่ากัน ก็ช่วยให้ลดหย่อนภาษีได้เท่ากันเช่นกันครับ
แต่ถ้าคุณต้องการมากกว่าการลดหย่อนภาษี ต้องการที่จะซื้อเพื่อให้ได้ประโยชน์ ได้ความคุ้มค่า และตอบโจทย์ชีวิตคุณจริงๆ ก็จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจวัตถุประสงค์ของตัวลดหย่อนแต่ละประเภท สินค้านั้นตอบโจทย์อะไรเราบ้าง? หรือสินค้าลดหย่อนตัวไหนจำเป็นต่อชีวิตของคุณมากที่สุด?
การประกันชีวิตเป็นการการันตีเงินที่จะได้รับในอนาคต กรณีที่เราจากไปอย่างกระทันหัน แล้วคนที่เราอุปการะเลี้ยงดู (เช่น พ่อแม่ ลูก ภรรยา) อาจจะมีความเดือดร้อน(จากภาระค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียน หรือหนี้สินที่มีอยู่) ประกันชีวิตมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีลักษณะความคุ้มครองและผลประโยชน์ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะได้ตอนเสียชีวิต (แบบเน้นความคุ้มครอง) หรือตอนยังมีชีวิต(แบบสะสมทรัพย์) แต่สิ่งที่สำคัญของการซื้อประกันชีวิต คือ “ทุนประกัน” ไม่ใช่ “ผลตอบแทน” เพราะถ้าคิดจะซื้อประกันโดยมอง “ผลตอบแทน” เป็นหลัก ไม่คุ้มครับ ซื้อ LTF หรือ RMF ผลตอบแทนสูงกว่าเห็นๆ ในระยะยาว
LTF คือกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่ง มีสัดส่วนการลงทุนแต่ในหุ้น 70-100% ทำให้มีความเสี่ยงและความผันผวนค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อเป้าหมายทางการเงินระยะกลางถึงยาว ที่มีระยะเวลาอย่างน้อย 7 ปี ขึ้นไป เพราะไม่สามารถขายได้ก่อน 7 ปีปฏิทิน
RMF คือกองทุนรวมเพื่อคนที่ต้องการมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณ ดังจะเห็นได้ว่าอยู่ในหมวดลดหย่อนภาษีเดียวกันกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือประกันแบบบำนาญ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเกษียณอายุตามปกติ คือเมื่ออายุ 55 หรือ 60 ปี เพราะตามเงื่อนไขแล้วหากลงทุนใน RMF จะขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่ออายุ 55 ปีเป็นต้นไป และลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี กองทุน RMF มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลายประเภท ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ในประเทศ ตราสารหนี้ต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ ฯลฯ ดังนั้นจึงสามารถจัดพอร์ตและปรับพอร์ตการลงทุนได้ตลอดเวลาตามระดับความเสี่ยงที่รับได้
ประกันแบบบำนาญ เป็นทางเลือกหนึ่งในการเก็บไว้ใช้ในยามเกษียณอายุ ช่วยให้มีเงินบำนาญเป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอ โดยจะต้องออมอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุเกษียณ (เช่น 55, 60 หรือ 65 ปี แล้วแต่แบบ) แล้วมีการการันตีเงินที่จะได้รับหลังเกษียณทุกๆปี ไปจนกระทั่งอายุ 85 หรือ 90 ปี
เครื่องมือทางการเงินที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่แค่ซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี แต่อยากจะให้มองเป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อการบริหารเงิน สร้างความมั่งคั่ง เสริมความมั่นคงของชีวิตและครอบครัวด้วยนะครับ
ตกลงเราควรซื้อสินค้าอะไรลดหย่อนภาษีดี? ประกันชีวิต, ประกันบำนาญ, LTF หรือ RMF ดี? หรือซื้อทุกอย่างเลย? แล้วควรจะแบ่งเงินไปซื้ออย่างละเท่าไหร่?
ผมแนะนำให้ตั้ง “เป้าหมายทางการเงิน” ของตัวเองดูก่อน ว่าต้องการอะไร? ใช้เงินเท่าไหร่? กรอบเวลาเท่าใด? แล้วค่อยมาคิดว่า เราจะจัดสรรเงินไปในแต่ละเป้าหมายเท่าไหร่ หลังจากนั้นจึงหาสินค้าทางการเงินที่ตอบโจทย์เป้าหมายนั้น จึงจะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุด
เราอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก มากกว่าแค่การซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีอย่างเดียว แต่เชื่อเถอะว่าการวางแผนการเงินทั้งระบบจะให้คุณได้ประโยชน์มากกว่าการลดหย่อนภาษีอย่างแน่นอน